แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ส ๒๑๑๐๓
ประวัติศาสตร์ ๑
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ชื่อหน่วย เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เวลา
๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง ตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง
สอนวันที่ ๒๘ พฤษภาคม - ๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ ชื่อผู้สอน
สอนวันที่ ๒๘ พฤษภาคม - ๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ ชื่อผู้สอน
๑. เรื่อง
ตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์
๒. เป้าหมายการเรียนรู้
๒.๑.
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมายและความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ
๒.๒. ตัวชี้วัด
ม. ๑/๑
วิเคราะห์ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์
ม. ๑/ ๒ เทียบศักราชตามระบบต่างๆ
ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์
๒.๓.
จุดประสงค์การเรียนรู้
๒.๓.๑.
ด้านความรู้
๒.๓.๑.๑. นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการเปรียบเทียบศักราชในแบบต่างๆ ได้
๒.๓.๑.๒. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการใช้ศักราชของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในแต่ละ
ประเภท
และในแบบต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
๒.๓.๑.๓. นักเรียนสามารถยกตัวอย่างการใช้ศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยได้
๒.๓.๒.
ด้านทักษะ
๒.๓.๒.1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
๒.๓.๒.2. ทักษะการแสดงความคิดเห็น
๒.๓.๒.๓. ทักษะการสืบค้นข้อมูล
๒.๓.๓.
ด้านคุณลักษณะ
๒.๓.๓.๑. ใฝ่เรียนรู้
๒.๓.๓.๒. มุ่งมั่นในการทำงาน
๒.๓.๔. ด้านสมรรถนะ (คร่อมวิชา)
๒.๓.๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒.๓.๔.๒. ความสามารถในการคิด
๒.๓.๔.๓. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๓. สาระสำคัญ
/ ความคิดรวบยอด
หลักฐานประวัติศาสตร์ที่ค้นพบและใช้ศึกษาอยู่ในปัจจุบัน มักมีการใช้ศักราชที่มีความแตกต่างกัน ของแต่ละยุคสมัย ดังนั้นการศึกษาประวัติศาสตร์
จึงต้องมีการศึกษาหลักฐานทางประศาสตร์ควบคู่กันไป เพราะจะช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าใจและจดจำความเป็นมาหรือเรื่องราวต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดังนั้นความรู้เรื่องการเทียบศักราชจึงมีความจำเป็นต่อการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบหลักฐานต่างๆ ให้เป็นศักราชปัจจุบันที่สามารถเข้าใจได้ตรงกัน
๔. ความเข้าใจที่คงทน / ฝังแน่น
๔.๑.
ศักราชที่มีอายุมากที่สุดที่พบในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย คือ
มหาศักราช ซึ่งพบมากที่สุดในสมัยสุโขทัย อาทิ
ศิลาจารึกสุโขทัย หรือจารึกต่างๆ
๔.๒.
ศักราชแบบพุทธศักราชเริ่มใช้ครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ ๖
(วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
พ.ศ. ๒๔๕๕)
๕. สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๕.1. วิธีการเปรียบเทียบศักราชต่างๆ และตัวอย่างการเทียบ
๕.๒. ตัวอย่างการใช้ศักราชต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย
๖. คำถามท้าทาย
๖.๑. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น (จังหวัดพิษณุโลก) ที่พบมีความเกี่ยวข้องกับศักราชใดบ้าง
๖.๒.
ถ้าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่มีการระบุถึงศักราช เราต้องทำอย่างไรจึงจะทราบว่าเรื่องราว
หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงปีใด
๗. กิจกรรมการเรียนรู้
ใช้การจัดการเรียนรู้ :
รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่าง
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
๑.
ขั้นเตรียม
-
ครูทำการทบทวนความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องความสำคัญของเวลาและช่วงเวลาสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ การนับและการเทียบศักราชแบบต่างๆ
-
ครูเปิดภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์
จากสื่อ Internet แล้วให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายร่วมกัน ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร เช่น
ภาพศิลาจารึกในสมัยสุโขทัย
พงศาวดาร หรือบันทึก ทางประวัติศาสตร์ไทย ฯลฯ
ขั้นสอน
๒.
ขั้นเสนอกรณีตัวอย่าง
- ครูอธิบายความรู้ เรื่องตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
โดยให้นักเรียนเปิดหนังสือประวัติศาสตร์ ม. ๑
ควบคู่ไปกับการฟังครูอธิบาย
3. ขั้นวิเคราะห์
-
ครูให้นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบการใช้ศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
ว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยยุคสมัยใดนิยมใช้ศักราชประเภทไหน เช่น
ศิลาจารึกสมัยกรุงสุโขทัยจะใช้ศักราชประเภท มหาศักราช
และพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยาจะใช้ศักราชประเภทจุลศักราช เป็นต้น
- ครูสุ่มถามนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยว่าศักราชที่เก่าแก่ที่สุด ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยคือศักราชใด
ขั้นสรุป
๔.
ขั้นสรุป / ๕.ขั้นประเมินผล
- ครูเปิดสื่อ
Power Point นำเสนอตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยให้นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม พร้อมทั้งร่วมกันเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง
๘. สื่อ /
อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้
๘.๑. สื่อ /
อุปกรณ์
๘.๑.๑. หนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
๘.๑.๒. ภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์
๘.๑.๓. สื่อ Power Point นำเสนอตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
๘.๒. แหล่งการเรียนรู้
๘.๒.๑. ห้องสมุด
๘.๒.๒. สื่อ Internet
๙. การวัดผลและประเมินผล
วิธีการ
|
เครื่องมือ
|
เกณฑ์การประเมิน
|
ครูประเมินพฤติกรรม
การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
|
แบบประเมินพฤติกรรม
การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
|
20 – 15 ผ่านเกณฑ์
|
กิจกรรมเสนอแนะ
๑.
ครูจัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้นักเรียนทำการศึกษาข้อมูลจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนวังจันทน์) หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
๒.
ครูให้นักเรียนทำการสืบค้นข้อมูลและค้นหาภาพเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ตนเองสนใจ ที่มีการระบุถึงศักราช มาคนละ
๑ ชนิด
บันทึกความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยงก่อนสอน
นักศึกษามีการจัดทำแผนการสอนล่วงหน้า และนำส่งก่อนนำไปปรับใช้จริง โดยแผนการจัดการเรียนรู้ มีองค์ประกอบครบถ้วน เหมาะกับการนำไปใช้สอนได้จริง
มีการประยุกต์ใช้ทฤษฎีและรูปแบบการสอนที่เป็นประโยชน์ คือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่าง นักศึกษามีความรับผิดชอบ และมีการเตรียมพร้อมต่อการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดี
ลงชื่อ ...................................................................
( ……………………………….. )
วันที่…………………………………………..
บันทึกความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยงหลังสอน
แผนการจัดการเรียนรู้นี้นักศึกษาสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ตามขั้นตอนที่ระบุไว้
ด้านการจัดการเรียนรู้นักศึกษามีเทคนิคในการสอนที่หลากหลาย สามารถควบคุมชั้นเรียนได้ดี นักเรียนสามารถจัดทำกิจกรรมใบงาน ที่ครูมอบหมายได้ถูกต้อง นักศึกษาสามารถนำสื่อการเรียนต่างๆมาใช้ประกอบการสอน ซึ่งมีความน่าสนใจ สามารถเอื้อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ดี
ลงชื่อ ...................................................................
( ……………………………….. )
วันที่…………………………………………..
บันทึกผลหลังสอน
ผลการสอน
สำหรับแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒
ได้จัดทำตามองค์ประกอบของโรงเรียนจ่านกร้อง โดยมีการนำ ทฤษฎีการสอนมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน นั้นคือ
รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่าง ที่เน้นให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเด่นชัด ในแง่ของการเห็นภาพตัวอย่างที่ถูกต้อง
ในด้านการนำไปปรับใช้ สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ แต่ต้องทำการสอนอย่างกระชับ เนื่องจากใช้เวลาเพียง ๑ คาบ ซึ่งในระหว่างการจัดการเรียนรู้อยู่ยังมีนักเรียนที่มีความสงสัย หรือให้ความสนใจในการสอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เรียน ดังนั้นครูจึงต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า เพื่อให้เนื้อหามีความครอบคลุม และยังสามารถชี้แนะข้อสงสัยให้กับผู้เรียนได้
ด้านนักเรียน ให้ความสนใจต่อสื่อ Power
Point ที่นำมาใช้ประกอบการสอนเป็นอย่างดี
เนื่องจากสื่อนี้มีการนำรูปภาพของหลักฐานทางประวัติศาสตร์จริงมาแสดงประกอบ ซึ่งไม่มีอยู่ในหนังสือเรียนฯ จึงทำให้นักเรียนสนใจ และให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนรู้
ส่วนปัญหาที่พบ คือ
กรณีของนักเรียน (เรียนร่วม) อาจจะยังเรียนรู้ได้ช้า และทำงานได้ช้ากว่านักเรียนปกติ และสื่อบางห้องเรียนไม่สามารถใช้งานได้
ลงชื่อ ...................................................................
( ……………………………….. )
วันที่…………………………………………..
จากปัญหาที่พบ
มี
๒ กรณี คือ
๑.
ปัญหาความไม่พร้อมของสื่อ
ที่ไม่สามารถใช้งานได้ในบ้างห้องเรียน
เบื้องต้นข้าพเจ้าได้ทำการแก้ไขด้วยตนเองในกรณีที่สามารถแก้ไขได้ คือ
การปริ้นรูปภาพนำมาใช้ประกอบการสอนแทนการใช้สื่อ Power
Point
ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองจะนำเรื่องไปรายงานกับครูพี่เลี้ยง เพื่อขอคำแนะนำต่างๆ ในการดำเนินการแก้ไขสื่อต่อไป
๒.
กรณีเด็กนักเรียนเรียนร่วม
ข้าพเจ้าได้จัดที่นั่งใหม่โดยให้นักเรียนเรียนร่วมได้นั่งคู่กับเพื่อนนักเรียน ที่มีความสามารถ หรืออาสาสมัคร
เพื่อให้เพื่อนักเรียนดังกล่าวคอยช่วยเหลือระหว่างเรียนในเบื้องต้น
จากนั้นข้าพเจ้าพยายามจัดการเรียนรู้ตามปกติ แต่จะเน้นย้ำประเด็นที่สำคัญอย่างกระชับ และในช่วงพักเที่ยงจะให้นักเรียนเรียนร่วมไปพบที่ห้องพักครู เพื่อสอบถามความเข้าใจ และจัดการสอนพิเศษให้กับนักเรียนเรียนร่วม
ลงชื่อ ...................................................................
( ……………………………….. )
วันที่…………………………………………..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น